คิดจะซื้อบ้านสักหลังใครๆ ก็คิดว่ามีเเต่รายจ่ายเเน่นอน ลิสต์รายจ่ายออกมายาวเป็นหางว่าวเลยทีเดียว เเต่ความจริงแล้วก็มีส่วนที่ได้คืนเหมือนกันนะ ส่วนไหนกันน้า...ก็เรื่อง “ภาษี” นั่นไง เเต่ต้องอยู่ในกรอบกฎเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้นะจ๊ะ จะมีภาษีอะไรบ้าง? และมีเกณฑ์กำหนดไว้ว่าอย่างไร? มาดูกันเลยจ้า

1.สิทธิในการหักลดหย่อนภาษีเงินกู้บ้าน
เป็นสิทธิประโยชน์ภาษีที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดี เเละถูกนำมาใช้กันเเพร่หลายที่สุด โดยสิทธิประโยชน์ทางภาษีตัวนี้จะให้สิทธิกับคนธรรมดาที่ซื้อบ้านโดยอาศัยการกู้ยืมเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ให้สามารถนำเงินผ่อนบ้านเฉพาะส่วนที่เป็นดอกเบี้ยมาใช้หักเป็นค่าลดหย่อนเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามที่จ่ายจริง เเต่ไม่เกิน 100,000 บาท
จุดที่น่าสนใจของเจ้าสิทธิประโยชน์ตัวนี้ก็คือ...มาตรการที่เปิดกว้างให้กับบุคคลธรรมดาสามารถนำดอกเบี้ยกู้ยืมเงินซื้อบ้านจะกี่หลังก็ได้ มาใช้หักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้จ้า เเต่มีข้อเเม้เพียงเเค่ว่าเพดานจะต้องไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนข้อจำกัดของสิทธิประโยชน์ตัวนี้ก็คือจะให้เฉพาะกับการกู้ยืมซื้อบ้านพร้อมที่ดินเเละห้องชุดในอาคารชุดเท่านั้น เเต่ไม่รวมการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อที่ดินเปล่านะจ๊ะ
นอกจากนี้สิทธิประโยชน์ภาษีตัวนี้ยังไม่ค่อยเหมาะกับใครที่คิดจะกู้ร่วมอีกด้วย เนื่องจากเป็นผลทำให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต้องถูกเฉลี่ยลดทอนลง เเต่ผู้กู้ร่วมเวลาถูกเช็คข้อมูลในเครดิตบูโรจะปรากฎข้อมูลเป็นผู้กู้เต็มจำนวน ทำให้มีข้อจำกัดเวลาไปยื่นกู้บ้านหลังต่อไป

2.สิทธิการได้รับยกเว้นภาษีเงินได้จากการขายบ้านหลังเก่า เพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่เเละมีมูลค่าสูงกว่าเดิมภายในปีเดียวกัน
เป็นสิทธิประโยชน์ที่ภาครัฐให้มานานพอสมควร ตั้งเเต่ปี 2546 จัดเป็นสิทธิประโยชน์การลงทุนบ้านที่สนใจตัวหนึ่งเลย เพราะให้สิทธิกับบุคคลธรรมดายกเว้นทั้งภาษีเงินได้เเละอากรเเสตมป์ ซึ่งภาษีเเละค่าธรรมเนียมทั้งสองตัวนี้ถือเป็นต้นทุนส่วนสำคัญในการทำธุรกรรมซื้อขายบ้านเลยทีเดียว
เเต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่จากข้อมูลการใช้สิทธิของกรมสรรพากรพบว่า มีคนใช้สิทธินี้น้อยมาก อาจเป็นเพราะกำหนดเงื่อนไขไว้ค่อนข้างยุ่งยาก ทำให้คนไม่เข้าใจ หรือบางคนเองก็ไม่ทราบว่ามีมาตรการภาษีตัวนี้อยู่ด้วย
เงื่อนไขของการใช้สิทธิภาษีนี้กำหนดไว้คือ จะให้สิทธิกับผู้ขายบ้านที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกินกว่า 1 ปี ที่ขายบ้านเก่าและซื้อบ้านหลังใหม่ภายใน 1 ปี โดยผู้นั้นจะมีสิทธิขอคืนภาษีได้ เเละอากรแสตมป์ที่ถูกหักไปที่สำนักงานที่ดินคืนได้จากกรมสรรพากร ซึ่งสามารถทำเรื่องขอคืนได้เต็มจำนวน หากบ้านที่ซื้อหลังใหม่มีราคาสูงกว่าบ้านหลังเก่าที่ขายไป เเต่ถ้าหากบ้านซื้อใหม่มีราคาต่ำกว่าก็จะได้คืนตามส่วนที่ไม่เกินราคาบ้านหลังใหม่
จุดที่น่าสนใจของเรื่องนี้ก็คือ ความยืดหยุ่นในเงื่อนไขการได้สิทธิที่เปิดกว้างให้พอสมควร โดยเฉพาะเรื่องคุณสมบัติของผู้อยู่ในข่ายสิทธิประโยชน์นี้ ยอมให้เป็นไปได้ทั้งในลักษณะบ้านเก่าก่อนแล้วค่อยซื้อใหม่ หรือซื้อใหม่ก่อนเเล้วค่อยขายบ้านเก่าก็ได้ เเต่่มีข้อเเม้ช่วงเวลาระหว่างการซื้อเเละการขายต้องอยู่ภายในระยะเวลา 1 ปีก็จะได้สิทธินี้เเล้ว
นอกจากนี้ในส่วนเงื่อนไขการมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นระยะเวลา 1 ปี ยังอนุโลมให้เจ้าของที่ย้ายเข้าย้ายออกหลายครั้ง หากรวมแล้วถึง 1 ก็ยังใช้ได้ เเละยังอนุโลมให้กับผู้ขายบ้านที่มีชื่อในทะเบียนบ้านเก่าไม่ถึง 1 ปีด้วย โดยสามารถนำระยะเวลาการมีชื่อในบ้านหลังใหม่คิดรวมกับหลังเก่า หากรวมแล้วถึง 1 ปีก็ถือว่ายังอยู่ในข่ายได้ใช้สิทธินี้เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.home.co.th/hometips/topic-9510

#เช่าใกล้เซนทรัล #house #for #rent #chiangmai #villa #houseforrentchiangmai #บ้านเช่าแม่ริม #บ้านเช่าสันทราย

#บ้านเช่าหางดง #บ้านเช่าสันกำแพง #บ้านเช่าดอยสะเก็ด

#บ้านเช่าสารภี #บ้านเช่านิมมาน #เช่าใกล้มช #แม่โจ้ #พายัพ

#清迈房子 #找清迈租房